ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น หลังนายจูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลี ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีดิ่งลง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.68% ปิดที่ 371.30 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,344.64 จุด ลดลง 26.91 จุด หรือ -0.50%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,651.18 จุด ลดลง 64.19 จุด หรือ -0.55% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,125.00 จุด ลดลง 64.65 จุด หรือ -0.90%
ตลาดปรับตัวลงโดยถูกกดดันจากความวุ่นวายทางการเมืองในอิตาลี หลังนายจูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีประกาศลาออก เนื่องจากพรรคลีกซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ตัดสินใจยื่นมติไม่ไว้วางใจพรรคร่วมรัฐบาล
นายคอนเตกล่าวว่า เขาจะยื่นจดหมายลาออกต่อนายเซอร์จิโอ แมตตาเรลลา ประธานาธิบดีอิตาลี ซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดหรือไม่ หรือจะรวบรวมเสียงจากพรรคการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่
หุ้นทุกกลุ่มปิดลบ โดยกลุ่มธนาคารถ่วงตลาดลงมากที่สุด เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
หุ้นกลุ่มทรัพยากรร่วงลงด้วย หลังบริษัทบีเอชพีระบุว่า ปัจจัยต่างๆ ที่ขัดขวางการขยายตัวทางเศรษฐกิจอาจกระทบอุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์หลักๆ อาทิ สินแร่เหล็ก และทองแดง
นักลงทุนจะจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด และนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ
หุ้นดอยซ์แบงก์ของเยอรมนี ลบ 0.46%, หุ้นเอชเอสบีซีของอังกฤษ ลดลง 1.07% และ หุ้นบีเอ็นพี พารีบาส์ของฝรั่งเศส ปรับตัวลง 0.65%
หุ้นเกล็นคอร์ในตลาดหุ้นอังกฤษ ลดลง 1.35% ขณะที่หุ้นบีพี และหุ้นเชลล์ ลบ 1.11% และ 0.93% ตามลำดับ