ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) หลังจากบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงทาร์เก็ต และโลว์ส รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดบางส่วนได้เสนอให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% เพื่อป้องกันผลกระทบจากข้อพิพาทการค้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,202.73 จุด พุ่งขึ้น 240.29 จุด หรือ +0.93% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,924.43 จุด เพิ่มขึ้น 23.92 จุด หรือ +0.82% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,020.21 จุด เพิ่มขึ้น 71.65 จุด หรือ +0.90%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ โดยบริษัททาร์เก็ตเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรในไตรมาส 2 ที่ระดับ 1.82 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.62 ดอลลาร์/หุ้น และมียอดขายเพิ่มขึ้น 3.4% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.9%
ทางด้านโลว์ส ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรในไตรมาส 2 ที่ระดับ 2.15 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.01 ดอลลาร์/หุ้น และมียอดขายเพิ่มขึ้น 2.3% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.9%
ผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ทั้งสองแห่งได้ช่วยหนุนราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นทาร์เก็ต ทะยานขึ้น 20.4% หุ้นโลว์ส พุ่งขึ้น 10.3% หุ้นเมซีส์ อิงค์ เพิ่มขึ้น 0.13% หุ้นเบด บาธ แอนด์ บียอนด์ พุ่งขึ้น 3% หุ้นนอร์ดสตรอม พุ่งขึ้น 5.5% หุ้นโคห์ล คอร์ป พุ่งขึ้น 4.8% หุ้นเบสท์ บาย พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้นอเมริกัน อีเกิล เอาท์ฟิทเทอร์ส พุ่งขึ้น 2.3%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยระบุว่า กรรมการเฟดได้อภิปรายเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่าเดิม โดยกรรมการบางส่วนเสนอให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% เพื่อกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อให้ดีดตัวขึ้นสู่เป้าหมายของเฟด และยับยั้งผลกระทบจากข้อพิพาทการค้าที่เกิดขึ้นทั่วโลก
รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า การที่เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 30-31 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น มีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำเกินไป และป้องกันความเสี่ยงที่การลงทุนในภาคธุรกิจจะทรุดตัวลงมากขึ้น อันเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการด้านภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 23 ส.ค. เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า นายพาวเวลจะใช้เวทีการประชุมดังกล่าว ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ได้เปิดเผยไปแล้วเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 2.5% สู่ระดับ 5.42 ล้านยูนิตในเดือนก.ค. ขณะที่สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 0.9% ในสัปดาห์ที่แล้ว
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนส.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ค.จาก Conference Board และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.