ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น และหุ้นกลุ่มส่งออกบวกขึ้นหลังเงินปอนด์อ่อนค่าลง ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีก
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,203.97 จุด เพิ่มขึ้น 78.97 จุด หรือ +1.11%
การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มน้ำมันช่วยหนุนตลาดดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเชลล์ บวก 1.06% และ หุ้นบีพี เพิ่มขึ้น 0.82%
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มส่งออกที่ปรับตัวขึ้นหลังเงินปอนด์อ่อนค่าลง ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นแอสตราเซเนกา บวก 1.97% และ หุ้นเบอร์เบอรี่ พุ่งขึ้น 4.50%
บรรดานักลงทุนรอการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟด โดยหลังจากปิดตลาดลอนดอน คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค. โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า การที่คณะกรรมการ FOMC ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) ลง 0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 30-31 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น มีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำเกินไป และป้องกันความเสี่ยงที่การลงทุนในภาคธุรกิจจะทรุดตัวลงมากขึ้น อันเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการด้านภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตารอฟังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 23 ส.ค. นี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า นายพาวเวลจะใช้เวทีการประชุมดังกล่าว ส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.