ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นโบอิ้งที่พุ่งขึ้นกว่า 4% หลังจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) จะอนุญาตให้โบอิ้งนำเครื่องบิน 737 MAX ขึ้นบินอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ หลังจากไอเอชเอส มาร์กิตรายงานว่า ภาคการผลิตของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี ขณะที่นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,252.24 จุด เพิ่มขึ้น 49.51 จุด หรือ +0.19% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,922.95 จุด ลดลง 1.48 จุด หรือ -0.05% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,991.39 จุด ลดลง 28.82 จุด หรือ -0.36%
ดัชนีดาวโจนส์ได้รับปัจจัยบวกจากราคาหุ้นโบอิ้งที่พุ่งขึ้น 4.2% หลังจากนายไค วอน รูมอห์ นักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศยานระดับแนวหน้าของโลกคาดการณ์ว่า สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐจะอนุญาตให้โบอิ้งนำเครื่องบิน 737 MAX ขึ้นบินอีกครั้งในอีก 4 หรือ 6 สัปดาห์ข้างหน้านี้ ขณะที่สื่อต่างประเทศรายงานว่า โบอิ้งเตรียมเพิ่มการผลิตเครื่องบิน 737 MAX ในเดือนต.ค.นี้ ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า โบอิ้งอาจนำเครื่องบินรุ่นดังกล่าวกลับมาให้บริการได้อีกครั้งในไตรมาส 4 ปีนี้ หลังจากที่ถูกสั่งห้ามขึ้นบินในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุเครื่องบิน 737 MAX ตก และคร่าชีวิตผู้โดยสารจำนวนมาก
หุ้นนอร์ดสตรอม ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 16% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้และยอดขายที่ดีเกินคาดในไตรมาส 2 อย่างไรก็ดี นอร์ดสตรอมได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปีงบการเงิน 2562
หุ้นฮอร์เมล ฟู้ดส์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเนื้อรายใหญ่ พุ่งขึ้น 4.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่สูงกว่าการคาดการณ์ของวอลล์สตรีท
หุ้นแอล แบรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์ชุดชั้นใน "Victoria's Secret" ร่วงลง 3.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหดตัวในภาคการผลิตของสหรัฐ หลังจากไอเอชเอส มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนส.ค.ของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 49.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 119 เดือน จากระดับ 50.4 ในเดือนก.ค. โดยดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve อีกครั้งเมื่อวานนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ดีดตัวขึ้นสูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า นายพาวเวลจะใช้เวทีการประชุมดังกล่าว ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. ในเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย