ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และนักลงทุนผิดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.78% ปิดที่ 371.36 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,326.87 จุด ลดลง 61.37 จุด หรือ -1.14%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,611.51 จุด ลดลง 135.53 จุด หรือ -1.15% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,094.98 จุด ลดลง 33.20 จุด หรือ -0.47%
ตลาดปรับตัวลงโดยถูกกดดัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกับสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สั่งให้บริษัทสหรัฐถอนตัวออกจากจีนโดยทันที เพื่อกลับมาผลิตสินค้าในสหรัฐ ซึ่งเป็นการตอบโต้จีนที่ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้าสหรัฐวงเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐลงอีกในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง
หุ้นเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ในตลาดหุ้นฝรั่งเศส ร่วง 4.65% ขณะที่หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ร่วง 2.14%
หุ้น BMW ในตลาดหุ้นเยอรมนีร่วง 3.15% ขณะที่หุ้นเดมเลอร์ ร่วง 3.09% และ หุ้นอินฟิเนียน ร่วง 2.76% ตามลำดับ
หุ้นเอ็นเอ็มซี เฮลธ์ ของอังกฤษ ร่วง 6.05%, หุ้นเจดี สปอร์ต แฟชั่น ลบ 2.88% และ หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ลดลง 2.63%