ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (23 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกับการที่จีนประกาศมาตรตอบโต้สหรัฐด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐมูลค่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการกล่าวสุนทรพจน์ที่แจ็กสัน โฮล
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,628.90 จุด ร่วงลง 623.34 จุด หรือ -2.37%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,847.11 จุด ร่วง 75.84 จุด หรือ -2.59% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,751.77 จุด ร่วง 239.62 จุด หรือ -3.00%
ตลาดถูกกดดัน หลังจากสภาแห่งรัฐของจีนประกาศว่า จีนจะเรียกเก็บภาษี 5-10% จากสินค้านำเข้าของสหรัฐวงเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการเก็บภาษี 2 รอบ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย. และ 15 ธ.ค.
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมาตอบโต้จีนทันที โดยทวีตสั่งให้บริษัทสหรัฐรีบถอนตัวออกจากจีน เพื่อกลับมาผลิตสินค้าในสหรัฐ
ข่าวดังกล่าวได้เพิ่มแรงกดดันต่อตลาดหุ้นสหรัฐ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะถดถอยซึ่งเกิดจากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้าต่างๆ
นอกจากนี้ บรรดานักลงทุนยังผิดหวังที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ไม่ได้ส่งสัญญาณถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง
นายพาวเวลกล่าวแต่เพียงว่า เฟดจะดำเนินการเพื่อให้เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวต่อไป ขณะที่ยอมรับว่า การทำสงครามการค้า และปัจจัยอื่นๆ กำลังทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง
FedWatch Tool ล่าสุด ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 17-18 ก.ย.
หุ้นกลุ่มรถยนต์ร่วงลง โดยหุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ส ร่วง 3.22% และ หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ร่วง 2.88%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 4.62% หุ้นอินเทล ลดลง 3.89% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ร่วงลง 3.18% หุ้นเน็ตฟลิตซ์ ลบ 1.85% หุ้นอเมซอนดอทคอม ร่วงลง 3.10% หุ้นทวิตเตอร์ ดิ่งลง 2.75% และ หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 2.36%
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงด้วย โดยหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 2.33% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ลดลง 2.63% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ร่วงลง 2.48 % หุ้นซิตี้กรุ๊ป ดิ่งลง 3.07% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 2.65% และ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 3.07%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ส่งผลฉุดตลาดลงด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลง 12.8% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 635,000 ยูนิต ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดของยอดขายบ้านนับตั้งแต่เดือนก.ค.2556 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 649,000 ยูนิต หลังจากพุ่งแตะระดับ 728,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี