ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 258.20 จุด หลังนลท.ช้อนซื้อหุ้นแบงก์,ราคาน้ำมันพุ่งหนุนหุ้นพลังงาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 29, 2019 06:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากหุ้นดังกล่าวร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งตลาดพันธบัตรสหรัฐที่ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,036.10 จุด พุ่งขึ้น 258.20 จุด หรือ +1.00% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,887.94 จุด เพิ่มขึ้น 18.78 จุด หรือ +0.65% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,856.88 จุด เพิ่มขึ้น 29.94 จุด หรือ +0.38%

นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารอย่างคึกคัก โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 1.2% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดีดขึ้น 1.48% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 1% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 1.1% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 1.44%

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้น 1.6% เมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 0.7% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 0.8% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 6.1% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม เพิ่มขึ้น 2.2% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม เพิ่มขึ้น 1.8% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 4% และหุ้นโคโนโคฟิลิปส์ ปรับตัวขึ้น 1.9%

หุ้นทิฟฟานี แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทค้าเครื่องประดับหรูหราของสหรัฐ พุ่งขึ้น 3.02% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 2 ที่ระดับ 1.12 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งแม้ว่าต่ำกว่าระดับ 1.17 ดอลลาร์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ตัวเลขดังกล่าวยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้

หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ขยับขึ้น 0.25% หลังจากหนังสือพิมพ์นิกเกอิของญี่ปุ่นรายงานว่า อัลฟาเบท จะย้ายฐานการผลิตสมาร์ทโฟน Pixel ออกจากจีนไปยังเวียดนาม โดยจะเริ่มต้นในปีนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางค่าแรงที่พุ่งสูงขึ้นในจีน รวมทั้งแรงกดดันจากการที่สหรัฐประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีในการทำสงครามการค้ากับจีน

หุ้นออโต้เดสก์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟท์แวร์สำหรับการออกแบบ ร่วงลง 6.7% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้ตลอดปีงบการเงิน 2562

นักลงทุนยังคงจับตาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ใกล้ถึงวันอาทิตย์นี้ที่ทั้งสองฝ่ายมีกำหนดปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกัน โดยสหรัฐจะเรียกเก็บภาษี 15% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนประกาศเก็บภาษี 5-10% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการเก็บภาษี 2 รอบ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย. และ 15 ธ.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตลาดพันธบัตรสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังจากตลาดพันธบัตรยังคงเกิดภาวะ inverted yield curve หรือภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นสูงกว่าอัตราผลตอบแทนระยะยาว ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้และอยู่ในความสนใจของนักลงทุน ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2562 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค., การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ