ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มส่งออกที่ปรับตัวขึ้นหลังค่าเงินปอนด์ดิ่งลงอย่างหนักจากความวิตกเกี่ยวกับกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบไร้ข้อตกลง
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,114.71 จุด เพิ่มขึ้น 25.13 จุด หรือ +0.35%
หุ้นกลุ่มส่งออกดีดตัวขึ้น หลังเงินปอนด์อ่อนค่าลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโร หลังจากที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ใช้แผนจำกัดการประชุมรัฐสภาอังกฤษ เพื่อหวังเดินหน้าผลักดัน Brexit แบบไร้ข้อตกลง
นายจอห์นสันประกาศกำหนดให้วันที่ 14 ต.ค.เป็นวันที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ประทานพระบรมราโชวาทต่อรัฐสภาอังกฤษเนื่องในวาระเปิดสมัยประชุมสภา
ก่อนหน้านี้ สมาชิกรัฐสภาอังกฤษมีกำหนดกลับเข้าประชุมสภาในสัปดาห์หน้า โดยจะมีการประชุมไปจนถึงวันที่ 9 ก.ย. ก่อนที่จะมีการพักสมัยประชุมเป็นเวลา 3 สัปดาห์เพื่อให้พรรคการเมืองต่างๆจัดการประชุมภายในพรรค แต่การดำเนินการของนายจอห์นสันในครั้งนี้ได้ทำให้การพักสมัยประชุมสภายาวนานขึ้นเป็น 5 สัปดาห์
การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้มีการปิดรัฐสภาอังกฤษตั้งแต่กลางเดือนก.ย.เป็นเวลาราว 1 เดือน ซึ่งจะทำให้รัฐสภามีเวลาน้อยลงในการออกกฎหมายเพื่อสกัดความพยายามของนายจอห์นสันในการผลักดันกระบวนการ Brexit แบบไร้ข้อตกลงในวันที่ 31 ต.ค.
หุ้นเฟรสนิลโล ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่โลหะ พุ่งขึ้น 4.36%, หุ้นเทสโก้ เพิ่มขึ้น 2.39%, หุ้นบีพี บวก 2.19% และ หุ้นเชลล์ เพิ่มขึ้น 0.94%