ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าทั้งแดนบวกและลบ นลท.จับตาการจัดการเจรจาการค้าจีนและสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 3, 2019 11:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ทั้งแดนบวกและลบ ในขณะที่นักลงทุนยังรอดูว่า สหรัฐและจีนจะสามารถจัดการเจรจาเรื่องการค้าตามที่ได้วางแผนไว้ในเดือนนี้ได้หรือไม่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามสถานการณ์การประท้วงในฮ่องกงที่ยืดเยื้อ

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 25,601.70 จุด ลดลง 24.85 จุด, -0.10% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 20,634.48 จุด เพิ่มขึ้น 14.29 จุด, +0.07% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,597.06 จุด ลดลง 15.08 จุด, -0.94%

นางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อกล่าวคำขอโทษต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมกับชี้แจงกรณีข่าวที่รั่วไหลออกจากจากการประชุมภายในซึ่งเธอจัดขึ้นร่วมกับกลุ่มผู้นำธุรกิจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ในการแถลงข่าวครั้งนี้ นางลัมได้กล่าวขอโทษต่อบรรดาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รุนแรงเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงได้ปิดกั้นถนนและเส้นทางการขนส่ง จนทำให้เกิดความโกลาหลที่สนามบินแห่งชาติฮ่องกง และเป็นเหตุให้ผู้โดยสารบางส่วนต้องเดินเท้าและลากสัมภาระไปยังสนามบิน

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ทรงตัวในเดือนส.ค.เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรและปิโตรเลียมปรับตัวลดลง โดยราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมร่วงลง 6.6% ในเดือนส.ค. และราคาผลิตภัณฑ์การเกษตร ดิ่งลง 11.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี

สำนักงานสถิติระบุว่า ดัชนี CPI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 1% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8

ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.หดตัวลง 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% แม้ว่าออสเตรเลียได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย และปรับลดภาษีในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม

ธนาคารกลางออสเตรเลียได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.และก.ค. ก่อนที่จะตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ระดับ 1.0% ในการประชุมเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา

ส่วนธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 1% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งชะลอตัวลงจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่า GDP ขยายตัว 1.1% เนื่องจากผลกระทบของการส่งออกที่ซบเซาลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ