ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ หลังจากที่จีนยืนยันเข้าร่วมเจรจาการค้ากับสหรัฐในเดือนหน้า
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกต่อสถานการณ์ในฮ่องกง และปัจจัยการเมืองในอังกฤษ
ณ เวลา 17.43 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 253 จุด หรือ 0.96% สู่ระดับ 26,625 จุด
กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้ทำการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันเกี่ยวกับการจัดการเจรจาการค้ารอบต่อไปที่กรุงวอชิงตันในช่วงต้นเดือนหน้า ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐและจีนจะทำการปรึกษาหารือกันในช่วงกลางเดือนนี้เพื่อเตรียมการประชุมดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ซิตี้กรุ๊ป สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ออกรายงานระบุว่า ทางบริษัทไม่คาดว่าการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะสิ้นสุดลง ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า
มุมมองของซิตี้กรุ๊ปถือว่าแตกต่างจากสถาบันการเงินแห่งอื่นๆ ซึ่งคาดว่าสหรัฐและจีนน่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า ขณะที่ยูบีเอสคาดว่า ทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงก่อนปี 2563
ซิตี้กรุ๊ปยังคาดการณ์ว่า ขณะที่การทำสงครามการค้าดำเนินไป เศรษฐกิจสหรัฐก็จะทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ซิตี้กรุ๊ปยังได้ปรับลดอันดับความน่าลงทุนในหุ้นสหรัฐ สู่ 'neutral' จากเดิมที่ 'overweight'
นักลงทุนคลายความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองในฮ่องกง หลังจากที่นางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ได้ประกาศถอนร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศจีนอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้
ขณะเดียวกัน นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีการทำข้อตกลง หรือ "no-deal Brexit" หลังจากที่สมาชิกรัฐสภาอังกฤษได้อนุมัติร่างกฎหมายป้องกัน "no-deal Brexit" เมื่อคืนนี้ ขณะที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประสบความล้มเหลวในความพยายามที่จะยุบสภา และจัดการเลือกตั้งใหม่