ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนบวกในวันนี้ โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเพิ่มแนวโน้มในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนนี้
ณ เวลา 21.27 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,779.55 จุด บวก 51.40 จุด หรือ 0.19%
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 130,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานยังคงอยู่ที่ระดับ 3.7% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 159,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 164,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 178,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 193,000 ตำแหน่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนส.ค. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 96,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 34,000 ตำแหน่ง
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 17-18 ก.ย. หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เช่นกันในการประชุมรอบที่แล้วในวันที่ 30-31 ก.ค. ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2551
นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้ทำการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันเกี่ยวกับการจัดการเจรจาการค้ารอบต่อไปที่กรุงวอชิงตันในช่วงต้นเดือนหน้า ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐและจีนจะทำการปรึกษาหารือกันในช่วงกลางเดือนนี้เพื่อเตรียมการประชุมดังกล่าว
แหล่งข่าววงในของจีนที่ใกล้ชิดกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ระบุว่า การเจรจาการค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายในครั้งนี้ จะแตกต่างจากการเจรจา 12 รอบในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้จะมีความคืบหน้าครั้งสำคัญ