ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และขานรับแนวโน้มที่ธนาคารกลางต่างๆ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,338.03 จุด เพิ่มขึ้น 70.08 จุด หรือ +0.96%
ตลาดได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากกระทรวงการคลังของจีนเปิดเผยรายชื่อสินค้า 16 ชนิดของสหรัฐที่จะได้รับการยกเว้นจากการเก็บภาษีเพิ่มเติมซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 ก.ย.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายในวันพฤหัสบดีนี้ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย.
หุ้นตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (LSE) พุ่งขึ้น 5.91% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากตลาดหุ้นหลักทรัพย์และสำนักหักบัญชีฮ่องกงเสนอเข้าเทคโอเวอร์ LSE วงเงิน 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ต้องการให้ LSE ยกเลิกข้อตกลงซื้อกิจการของบริษัทข้อมูล Refinitiv วงเงิน 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มการเงินที่ทำธุรกิจในเอเชีย และหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้น หลังมีรายงานว่าจีนจะออกมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากสงครามการค้ากับสหรัฐ โดยหุ้นเอชเอสบีซี บวก 1.94% และหุ้นเกล็นคอร์ เพิ่มขึ้น 1.25%