ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) ขานรับการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) รวมทั้งสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ส่งสัญญาณคืบหน้า โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นนำตลาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,182.45 จุด เพิ่มขึ้น 45.41 จุด หรือ +0.17% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,009.57 จุด เพิ่มขึ้น 8.64 จุด หรือ +0.29% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,194.47 จุด เพิ่มขึ้น 24.79 จุด หรือ +0.30%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 7 เมื่อคืนนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่ ECB ตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB สู่ระดับ -0.50% จากเดิมที่ระดับ -0.40% พร้อมประกาศรื้อฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนพ.ย. ซึ่ง ECB จะซื้อพันธบัตรในวงเงิน 2 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยยังไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุดโครงการ
ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ส่งสัญญาณเชิงบวก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเลื่อนการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.50 แสนล้านดอลลาร์ จากวันที่ 1 ต.ค. ไปเป็นวันที่ 15 ต.ค. ขณะที่รัฐบาลจีนได้ประกาศรายชื่อสินค้าจำนวน 16 รายการของสหรัฐที่จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 ก.ย. เป็นเวลา 1 ปีจนถึงวันที่ 16 ก.ย.2563
ล่าสุด ปธน.ทรัมป์ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า เขาจะพิจารณาการทำข้อตกลงการค้าฉบับชั่วคราวกับจีน แต่ในขณะเดียวกันเขายังคงต้องการที่จะทำข้อตกลงการค้าฉบับสมบูรณ์กับจีน
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิพพุ่งขึ้นขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยหุ้น Qorvo Inc พุ่งขึ้น 2% หุ้นแลม รีเสิร์ช เพิ่มขึ้น 0.4% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มพี) พุ่งขึ้น 1.5% หุ้นอินเทล ดีดขึ้น 0.4% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.03% หุ้นอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 1.2%
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 0.9% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 0.8% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ปรับตัวขึ้น 0.6% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 0.6% และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 0.7%
หุ้น AT&T ซึ่งเป็นบริษัทเทเลคอมรายใหญ่ของสหรัฐ ปรับตัวลง 0.9% เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากรายงานข่าวที่ว่าเอลเลียต แมเนจเมนต์ ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ได้เข้าถือหุ้น 3.2 พันล้านดอลลาร์ใน AT&T เพื่อปรับปรุงธุรกิจของบริษัท
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีผลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดเมื่อคืนนี้ รวมถึงจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 15,000 ราย สู่ระดับ 204,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค.