ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มสายการบินที่ร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงพุ่งขึ้นรับข่าวการโจมตีโรงงานน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ขณะที่หุ้นกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.58% ปิดที่ 389.53 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,602.23 จุด ลดลง 53.22 จุด หรือ -0.94%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,380.31 จุด ลดลง 88.22 จุด หรือ -0.71% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,321.41 จุด ลดลง 46.05 จุด หรือ -0.63%
หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงโดยถูกกดดันจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่พุ่งขึ้นจากข่าวการโจมตีโรงงานน้ำมันของซาอุดีอาระเบียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลให้การผลิตน้ำมันในซาอุดีอาระเบียลดลงราวครึ่งหนึ่ง ขณะที่ตลาดกังวลว่า เหตุการณ์โจมตีครั้งนี้อาจจะนำไปสู่การตอบโต้กันในตะวันออกกลาง และจะส่งผลกระทบอุปทานน้ำมันในตลาดโลก
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า โรงงานน้ำมันสองแห่งในเขตอับกาอิก (Abqaiq) และคูราอิส (Khurais) ถูกโจมตีด้วยโดรนจนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกไหม้ โดยโรงงานทั้งสองแห่งเป็นของบริษัทซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย
หุ้นแอร์ ฟรานซ์ ร่วง 3.21%, หุ้นลุฟต์ฮันซา ลบ 2.84% และ หุ้นคาร์นิวาล ลดลง 2.18%
แต่หุ้นกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด อาทิ หุ้นบีพี พุ่งขึ้น 4.00% และ หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ เพิ่มขึ้น 2.53%