ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของเหตุการณ์โจมตีโรงงานน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย หลังจากรัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบียได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การผลิตน้ำมันจะฟื้นตัวโดยสมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,110.80 จุด เพิ่มขึ้น 33.98 จุด หรือ +0.13% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,005.70 จุด เพิ่มขึ้น 7.74 จุด หรือ +0.26% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,186.02 จุด เพิ่มขึ้น 32.47 จุด หรือ +0.40%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์โจมตีโรงงานน้ำมันในซาอุดีอาระเบียเริ่มผ่อนคลายลง ภายหลังจากเจ้าชายอับดูลาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า การผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียจะฟื้นตัวโดยสมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนนี้ โดยถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันดิบอ่อนแรงลง หลังจากที่ราคพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จนสร้างความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน แม้ว่าสหรัฐกล่าวหาอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีซาอุดีอาระเบียก็ตาม
นักลงทุนเข้าซื้อหุ้น defensive stocks หรือหุ้นที่สามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคและกลุ่มสาธารณูปโภค โดยหุ้นไทสัน ฟู้ดส์ พุ่งขึ้น 2.9% หุ้นพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) พุ่งขึ้น 1.2% หุ้นเป๊ปซี่โค เพิ่มขึ้น 0.6% หุ้นโคคา-โคลา ดีดขึ้น 0.5% ส่วนหุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภคนั้น หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี เพิ่มขึ้น 0.82% หุ้นคอนโซลิเดทเต็ด เอดิสัน อิงค์ พุ่งขึ้น 1.06% หุ้นเฟิร์สท์เอนเนอร์จี เพิ่มขึ้น 1.07%
หุ้นชิโปเล่ เม็กซิกัน กริลล์ ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านอาหารเม็กซิกันชื่อดัง พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากบริษัทเพิ่มเมนูสเต็คในรายการอาหารในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
หุ้นคราฟท์ ไฮนซ์ ดิ่งลง 4.3% หลังจากบริษัททรีจี แคปิตอล ประกาศขายหุ้นกว่า 25 ล้านหุ้นที่ถืออยู่ในคราฟท์ ไฮนซ์
หุ้นโฮม ดีโปท์ ขยับลง 0.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ Guggenheim ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นโฮม ดีโปท์ ลงสู่ระดับ "neutral" จากเดิมที่ระดับ "buy"
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงเกือบ 6% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 5.5% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 6.5% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทรุดลง 13.2% หุ้นอาปาเช คอร์ป ร่วงลง 8.5% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.2% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.7%
นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย ขณะที่นักลงทุนคาดว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะกล่าวแถลงการณ์หลังการประชุมในครั้งนี้เช่นกัน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1 จุด สู่ระดับ 68 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในปีนี้ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2%
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนก.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 2/2562, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.จาก Conference Board