ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย. และตลาดยังขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในเดือนนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,573.72 จุด พุ่งขึ้น 372.68 จุด หรือ +1.42%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,952.01 จุด เพิ่มขึ้น 41.38 จุด หรือ +1.42% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,982.47 จุด ปรับตัวขึ้น 110.21 จุด หรือ +1.40%
ตลาดปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 136,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. แม้ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 145,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี และต่ำกว่าระดับ 3.7% ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาสราว 79.6% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนนี้
หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.8% หลังมีรายงานว่า บริษัทจะเพิ่มการผลิต iPhone 11 อีกประมาณ 7-8 ล้านเครื่อง หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 10% เพื่อตอบสนองความต้องการโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ดังกล่าวที่สูงเกินคาด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นตามหุ้นแอปเปิล โดยหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ บวก 0.98%, หุ้นอินเทล เพิ่มขึ้น 1.8%, หุ้นเฟซบุ๊ก บวก 0.6%, หุ้นอเมซอนดอทคอม ขยับขึ้น 0.88%, หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล เพิ่มขึ้น 1.81% และ หุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวขึ้น 1.35%
แต่หุ้นเอชพี อิงค์ ดิ่งลง 9.57% หลังบริษัทผู้ผลิตพีซีรายใหญ่ระดับโลกเปิดเผยว่า ทางบริษัทจะปรับลดจำนวนพนักงานลงประมาณ 7,000-9,000 ตำแหน่งทั่วโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิรูปโครงสร้างในปีงบการเงิน 2563
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอื่นๆ เมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.49 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 5.45 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 5.40 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.
อย่างไรก็ดี สหรัฐขาดดุลการค้ากับจีนลดลง 3.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และลดลง 11.4% เมื่อเทียบรายปี
นอกจากนี้ สหรัฐขาดดุลการค้ากับสหภาพยุโรปลดลง 23.7% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน แต่เพิ่มขึ้น 8.1% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ขาดดุลการค้ากับเยอรมนีพุ่งแตะระดับ 7.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
กระทรวงพาณิชย์ยังเปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.079 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. ส่วนการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.628 แสนล้านดอลลาร์