ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นจากความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และความไม่แน่นอนที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบมีข้อตกลง นอกจากนี้ รายงานข่าวที่น่าผิดหวังของภาคธุรกิจ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 1.10% ปิดที่ 378.71 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,456.62 จุด ลดลง 64.99 จุด หรือ -1.18%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,970.20 จุด ลดลง 127.23 จุด หรือ -1.05% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,143.15 จุด ลดลง 54.73 จุด หรือ -0.76%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงโดยถูกกดดัน หลังจากที่สหรัฐได้ประกาศขึ้นบัญชีดำต่อบริษัทเทคโนโลยีของจีน 28 แห่ง โดยอ้างว่าบริษัทเหล่านี้ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวมุสลิม ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในเขตปกครองตนเองซินเจียง
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เจรจาการค้าของจีนจะเดินทางกลับประเทศก่อนกำหนด โดยจะออกจากกรุงวอชิงตันในวันศุกร์นี้ ส่งผลให้โอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงการค้าริบหรี่ลง ซึ่งตามกำหนดเดิม สหรัฐและจีนจะเจรจาการค้าในระดับรัฐมนตรีในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ที่กรุงวอชิงตัน
บรรดานักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับ Brexit ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 23 วันก็จะถึงเส้นตายการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนต่อกรณี Brexit ขณะที่อังกฤษและ EU เตรียมกล่าวโทษแต่ละฝ่ายว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกรณี no-deal Brexit หรือการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง
หุ้น Qiagen ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพของเยอรมนี ดิ่งลง 21% หลังเปิดเผยว่า ซีอีโอของบริษัทจะลาออกจากตำแหน่ง และเตือนเกี่ยวกับยอดขายขั้นต้นในไตรมาส 3
ราคาหุ้นของบริษัทลอนดอน สต็อก เอ็กซ์เชนจ์ กรุ๊ป (LSE) ซึ่งเป็นผู้บริหารจัดการตลาดหุ้นลอนดอน ร่วงลงกว่า 5.8% หลังบริษัทฮ่องกง เอ็กซ์เชนจ์ แอนด์ เคลียริ่ง ลิมิเต็ด (HKEX) ซึ่งเป็นผู้บริหารจัดการตลาดหุ้นฮ่องกง ได้ประกาศยกเลิกแผนการเสนอเทคโอเวอร์ LSE วงเงิน 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นยูนิเปอร์ ซึ่งเป็นบริษัทด้านพลังงานของเยอรมนี ร่วงลง 8.5% หลังบริษัทฟอร์ทัมของฟินแลนด์ใกล้ที่จะเข้าถือหุ้นทั้งหมดของยูนิเปอร์ ขณะที่ผู้บริหารสูงสุดของยูนิเปอร์เตือนว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท