ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้น 200 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ หลังจากมีข่าวว่า จีนพร้อมที่จะหารือเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าบางส่วนกับสหรัฐ
ณ เวลา 17.28 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 172 จุด หรือ 0.66% สู่ระดับ 26,310 จุด หลังจากทะยานขึ้น 200 จุดในช่วงแรก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนพร้อมที่จะหารือเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าบางส่วนกับสหรัฐ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จีนรายหนึ่งกล่าวว่า จีนพร้อมที่จะเจรจาเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้า ตราบใดที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้เพิ่มการจัดเก็บภาษีต่อจีน ซึ่งรวมถึงแผนการเพิ่มอัตราภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่มีกำหนดในเดือนนี้ และเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ บลูมเบิร์กยังรายงานว่า จีนจะเสนอซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐเป็นการตอบแทน
เจ้าหน้าที่จีนกล่าวว่า คณะผู้เจรจาไม่คาดว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงการค้าในวงกว้างซึ่งจะยุติความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ระบุว่า เจ้าหน้าที่จีนจะยื่นข้อเสนอที่จะซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าบางส่วน
"คุณหลิว เหอมาพร้อมกับข้อเสนอ เขาไม่ได้มามือเปล่า ทางฝ่ายจีนพร้อมที่จะลดความตึงเครียดในการเจรจา" แหล่งข่าวระบุ
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 17-18 ก.ย.ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของเฟดในปลายเดือนนี้
ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ โดยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดในเดือนก.ย. แม้อัตราการว่างงานแตะระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี
นอกจากนี้ การเปิดเผยตัวเลขดัชนี PPI ที่ชะลอตัวในเดือนก.ย. ก็เป็นอีกปัจจัยที่หนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 83.4% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนนี้