ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับสัญญาณความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ก่อนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ 2 ประเทศจะเริ่มเจรจากันในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากสื่อต่างประเทศรายงานว่า จีนพร้อมที่จะหารือเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าบางส่วนกับสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับสถานการณ์เกี่ยวกับการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,166.50 จุด เพิ่มขึ้น 23.35 จุด หรือ +0.33%
ตลาดปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ก่อนการเจรจาการค้าระดับรัฐมนตรีในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ที่กรุงวอชิงตัน โดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีน ขณะที่ฝ่ายสหรัฐนำโดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR)
เจ้าหน้าที่จีนรายหนึ่งกล่าวว่า จีนพร้อมที่จะเจรจาเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้า ตราบใดที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้เพิ่มการจัดเก็บภาษีสินค้าจีน ซึ่งรวมถึงแผนการเพิ่มอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนที่มีกำหนดในเดือนนี้ และเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ สื่อต่างประเทศยังรายงานว่า จีนจะเสนอซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐเป็นการตอบแทน โดยเจ้าหน้าที่จีนจะยื่นข้อเสนอซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าบางส่วน
นักลงทุนยังคงจับตาประเด็น Brexit โดยสภาสามัญชนของอังกฤษ หรือสภาล่าง จะจัดการประชุมนัดพิเศษในวันเสาร์ที่ 19 ต.ค.นี้เพื่ออภิปรายในประเด็นดังกล่าว
การประชุมดังกล่าวจะเกิดขึ้น หลังการประชุมสุดยอดของผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ในวันที่ 17 ต.ค. ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายที่อังกฤษจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับ EU ในประเด็น Brexit ก่อนที่จะแยกตัวออกจาก EU ในวันที่ 31 ต.ค.
หุ้นจัสต์ อีต บวก 1.4% หลังบริษัทเทคอะเวย์.คอม ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งของเนเธอร์แลนด์ รายงานยอดสั่งซื้อรายไตรมาสเพิ่มขึ้น
หุ้นลอนดอน สต็อก เอ็กซ์เชนจ์ กรุ๊ป (LSE) ซึ่งเป็นผู้บริหารจัดการตลาดหุ้นลอนดอน พุ่งขึ้น 3.25% ขณะที่หุ้นเบอเบอร์รี และหุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค เพิ่มขึ้น 0.39% และ 0.43% ตามลำดับ