ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่าจะพบปะกับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งเป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีนในวันนี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะมีความคืบหน้า นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาหุ้นแอปเปิลยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,496.67 จุด เพิ่มขึ้น 150.66 จุด หรือ +0.57% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,938.13 จุด เพิ่มขึ้น 18.73 จุด หรือ +0.64% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,950.78 จุด เพิ่มขึ้น 47.04 จุด หรือ +0.60%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะพบปะกับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนที่ทำเนียบขาวในวันนี้ นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้แสดงมุมมองด้านบวกว่า การเจรจาวันแรกระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและจีน เป็นไปอย่างราบรื่น
ทั้งนี้ การเจรจาระดับรัฐมนตรีระหว่างสหรัฐและจีนได้เริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดี และจะมีการหารือกันต่อในวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ โดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน เป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีน ขณะที่ฝ่ายสหรัฐนำโดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR)
หุ้นแอปเปิล ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักทรัพย์จำนวน 30 หลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์ พุ่งขึ้น 1.35% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทลองโบว์ รีเสิร์ช ได้แนะนำให้นักลงทุน "ซื้อ" หุ้นแอปเปิล เนื่องจากคาดว่าความต้องการผลิตภัณฑ์ iPhone 11 จะปรับตัวสูงขึ้น
หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสภาวะการค้าของสหรัฐเนื่องจากมีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศนั้น ทะยานขึ้น 2.7%
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส 1.4% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 1.75% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2.01% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 1.53% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 1.51% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก เพิ่มขึ้น 1.04%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI เริ่มฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.2% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 1.28% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม เพิ่มขึ้น 0.47% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน เพิ่มขึ้น 0.9% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 1.57%
หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ร่วงลง 1.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 5% สู่ระดับ 1.256 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปทรงตัว หรือเพิ่มขึ้น 0% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน