ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มที่อังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) จะสามารถบรรลุข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) นอกจากนี้ บรรดานักลงทุนยังมีความหวังว่า สหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าหลังเสร็จสิ้นการเจรจาครั้งล่าสุดในสัปดาห์นี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่ง 2.31% ปิดที่ 391.61 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,665.48 จุด เพิ่มขึ้น 96.43 จุด หรือ +1.73%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,511.65 จุด พุ่งขึ้น 347.45 จุด หรือ +2.86% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,247.08 จุด บวก 60.72 จุด หรือ +0.84%
ตลาดปรับตัวขึ้นขานรับแนวโน้มที่อังกฤษและ EU จะสามารถบรรลุข้อตกลง Brexit หลังจากนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายลีโอ วารัดคาร์ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ได้พบปะกันเมื่อวันพฤหัสบดีเพื่อเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลง Brexit โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุม ทั้งสองฝ่ายออกแถลงการณ์ระบุว่า ผู้นำทั้งสองมีการหารือในเชิงสร้างสรรค์ และเชื่อว่าการทำข้อตกลงจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย และเห็นพ้องกันว่ายังคงมีทางที่จะบรรลุข้อตกลงก่อนกำหนดเส้นตาย Brexit ในวันที่ 31 ต.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความหวังที่เพิ่มขึ้นว่า หลังการเจรจาการค้าของเจ้าหน้าที่ระดับสูง สหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าบางส่วน และจะส่งผลให้สหรัฐระงับการเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มขึ้นออกไปจากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 15 ต.ค.นี้
นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และ เจ้าหน้าที่ระดับสูงอื่นๆ ได้เสร็จสิ้นการหารือกันแล้วในวันศุกร์
หุ้นกลุ่มธนาคารนำตลาดปรับตัวขึ้น โดยหุ้น CYBG ทะยานขึ้น 13.95%, หุ้นลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป พุ่งขึ้น 12.27% และ หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ พุ่งขึ้น 11.46%
ส่วนหุ้นเอสเอพีของเยอรมนี พุ่งขึ้น 10.06% หลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่ง