ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐกับจีนอีกครั้ง หลังมีรายงานว่าจีนต้องการเจรจาเพิ่มก่อนที่จะลงนามในข้อตกลงขั้นแรกกับสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,787.36 จุด ลดลง 29.23 จุด หรือ -0.11% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,966.15 จุด ลดลง 4.12 จุด หรือ -0.14% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,048.65 จุด ลดลง 8.39 จุด หรือ -0.10%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากมีรายงานว่า จีนต้องการเจรจาเพิ่มเติมกับสหรัฐอีกอย่างเร็วที่สุดในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ เพื่อสรุปรายละเอียดของข้อตกลงการค้าขั้นแรกก่อนที่ผู้นำทั้งสองจะลงนามร่วมกัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ทางฝั่งจีนอาจส่งคณะผู้แทนเจรจา ซึ่งนำโดยรองนายกรัฐมนตรี หลิว เหอ ไปสรุปข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อให้ผู้นำทั้งสองประเทศลงนามร่วมกันได้ในการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ในเดือนหน้าที่ประเทศชิลี
นอกจากนี้ แหล่งข่าวระบุด้วยว่า จีนยังต้องการให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ล้มเลิกแผนการขึ้นภาษีนำเข้าในเดือนธ.ค.ด้วย นอกเหนือไปจากที่เสนอว่าจะยกเลิกการขึ้นภาษีตามกำหนดการในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ สหรัฐมีกำหนดเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 30% ในวันที่ 15 ต.ค. จากเดิมที่ระดับ 25% และมีกำหนดเก็บภาษี 15% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 1.6 แสนล้านดอลลาร์ ในวันที่ 15 ธ.ค.
หุ้นโบอิ้ง ปรับตัวลง 0.46% หลังจากคณะกรรมการของบริษัทโบอิ้งได้สั่งถอดนายเดนนิส มุยเลนเบิร์ก ซีอีโอของโบอิ้งออกจากตำแหน่งประธานบริษัท ภายหลังจากคณะกรรมการด้านการบินระหว่างประเทศได้วิพากษ์วิจารณ์การพัฒนาเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX
หุ้นไนกี้ ปรับตัวขึ้น 1.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริลล์ ลินช์ ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของหุ้นไนกี้ขึ้นสู่ระดับ "neutral" จากระดับ "underperform" โดยระบุถึงแนวโน้มทางธุรกิจที่สดใสของไนกี้
หุ้นฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์รายใหญ่ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 0.3% หลังจากบริษัทประกาศระงับการผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ภายหลังจากที่พบความบกพร่องในระหว่างตรวจสอบคุณภาพในขั้นตอนสุดท้าย
หุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวผันผวนเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นไป่ตู้ ขยับขึ้น 0.7% ขณะที่หุ้นยัมไชน่า โฮลดิ้งส์ และหุ้นอาลีบาบา โฮลดิ้ง ร่วงลง 2.9% และ 1.03% ตามลำดับ
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ในวันนี้ ซึ่งได้แก่ เจพีมอร์แกน เชส, โกลด์แมน แซคส์, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ฟาร์โก ขณะที่บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการในวันนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนต.ค. จากเฟดนิวยอร์ก ยอดค้าปลีกเดือนก.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนต.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย., ดัชนีการผลิตเดือนต.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนก.ย. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.จาก Conference Board