ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่าการเจรจาเกี่ยวกับกระบวนการที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) ใกล้บรรลุข้อตกลงที่จะหลีกเลี่ยงการถอนตัวแบบไม่มีข้อตกลง (no deal Brexit)
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.11% ปิดที่ 394.02 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,702.05 จุด เพิ่มขึ้น 58.98 จุด หรือ +1.05%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,629.79 จุด เพิ่มขึ้น 143.23 จุด หรือ +1.15% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,211.64 จุด ลดลง 1.81 จุด หรือ -0.03%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น โดยฉพาะตลาดหุ้นไอร์แลนด์ซึ่งพึ่งพาธุรกิจของอังกฤษอย่างมากนั้น ทะยานขึ้นเกือบ 3% หลังจากสื่อรายงานว่า ขณะนี้อังกฤษและ EU กำลังอยู่ในระหว่างการร่างข้อตกลง Brexit ที่จะได้รับการยอมรับจากทั้งสองฝ่าย โดยนายมิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าผู้แทนการเจรจา Brexit ของ EU เชื่อว่า อังกฤษและ EU จะสามารถบรรลุข้อตกลง Brexit ในสัปดาห์นี้ หลังการเจรจาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หากข้อตกลง Brexit ได้รับความเห็นชอบจากคณะผู้เจรจาทั้ง 2 ฝ่ายในสัปดาห์นี้ ก็อาจมีการลงนามอย่างเป็นทางการจากผู้นำ EU ในระหว่างการประชุมสุดยอดที่กรุงบรัสเซลส์ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้
นอกจากนี้ การเริ่มเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ดีเกินคาดของบริษัทสหรัฐ อาทิ เจ.พี.มอร์แกน และ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นดอยซ์ แบงก์ พุ่ง 2.88%, หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ พุ่ง 3.64% และหุ้น BMW พุ่งขึ้น 2.65%