ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนไม่แน่ใจกับการทำข้อตกลงระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความตึงเครียดครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีนเกี่ยวกับกรณีที่สหรัฐผลักดันกฎหมายสนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.14% ปิดที่ 393.46 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,696.90 จุด ลดลง 5.14 จุด หรือ -0.09% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,167.95 จุด ลดลง 43.69 จุด หรือ -0.61% ส่วนดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,670.11 จุด เพิ่มขึ้น 40.32 จุด หรือ +0.32%
ตลาดปรับตัวลงหลังจากมีรายงานว่า ผู้เจรจาของ EU และ อังกฤษยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลง Brexit โดย EU ระบุว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะทำข้อตกลงดังกล่าว หากอังกฤษไม่ยินยอมในประเด็นต่างๆ มากกว่านี้
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่จีนขู่ที่จะตอบโต้สหรัฐ หากสหรัฐอนุมัติกฎหมายที่สนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกง
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ในยุโรปร่วงลง โดยหุ้นริโอ ทินโต ร่วง 1.7% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์การผลิตบอกไซต์และอะลูมินา และยังได้รับผลกระทบจากการที่ราคาสินแร่เหล็กของจีนร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์หลังแนวโน้มอุปสงค์อ่อนแอ
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มบริการทางการเงินปรับตัวลงด้วย เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นดังกล่าวในตลาดหุ้นอังกฤษ
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทยุโรปในสัปดาห์หน้า ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าผลประกอบการจะลดลง โดยได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับ Brexit, สงครามการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างสหรัฐ-จีน และภาคการผลิตที่หดตัวลงของเยอรมนี