ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากการคาดการณ์แนวโน้มยอดขายที่ซบเซาจากบริษัทเรโนลต์และบริษัทดานอนของฝรั่งเศส ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การอภิปรายของรัฐสภาอังกฤษในวันเสาร์นี้ว่าจะรับรองข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ฉบับใหม่หรือไม่
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.32% ปิดที่ 391.84 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,636.25 จุด ลดลง 36.81 จุด หรือ -0.65%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,633.60 จุด ลดลง 21.35 จุด หรือ -0.17% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,150.57 จุด ลดลง 31.75 จุด หรือ -0.44%
หุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ในยุโรปปรับตัวลง หลังหุ้นเรโนลต์ของฝรั่งเศสดิ่งลงกว่า 11% เนื่องจากบริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้และผลกำไรทั้งปีนี้ ขณะที่ตลาดรถยนต์ชะลอตัวลง
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มรถยนต์ยังถูกกดดันจากการที่บริษัทวอลโว่ของสวีเดนคาดการณ์อุปสงค์รถยนต์ที่ลดลงทั้งในทวีปอเมริกาและทวีปยุโรปในปีหน้า
หุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มของยุโรปปรับตัวลงตามหุ้นดานอนของฝรั่งเศสซึ่งร่วงลงกว่า 8% หลังบริษัทดานอนซึ่งเป็นผู้ผลิตโยเกิร์ตรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของยอดขายในปี 2562
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่กระบวนการ Brexit หลังอังกฤษและ EU บรรลุข้อตกลง Brexit ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน วางแผนที่จะแถลงต่อรัฐสภาอังกฤษในวันเสาร์นี้ ก่อนที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษจะอภิปรายว่า จะรับรองข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่ที่นายจอห์นสันเห็นชอบร่วมกับ EU หรือไม่ หรือจะออกจาก EU แบบไม่มีข้อตกลงในวันที่ 31 ต.ค.นี้
บรรดานักลงทุนจะหันไปจับตาการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทยุโรปซึ่งจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า
หุ้นเรโนลต์และหุ้นดานอนของฝรั่งเศสดิ่งลง 11.48% และ 8.42% ตามลำดับ, หุ้นเดมเลอร์ของเยอรมนี ลดลง 1.42% ขณะที่หุ้นอินเตอร์คอนติเนนทัล โฮเทลส์ กรุ๊ปและหุ้นอีฟแรซของอังกฤษ ต่างก็ร่วงลง 4.58%