ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนบวกในวันนี้ แต่ดัชนีถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดของแคทเธอร์ พิลลาร์ และโบอิ้ง
ณ เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,838.88 จุด บวก 50.78 จุด หรือ 0.19%
บริษัทมากกว่า 20% ในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 โดยจำนวน 81% ได้รายงานตัวเลขกำไรดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
แคทเธอร์ พิลลาร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ในไตรมาส 3 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ แคทเธอร์ พิลลาร์ระบุว่า บริษัทมีกำไร 2.66 ดอลลาร์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.88 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 1.2758 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.3572 หมื่นล้านดอลลาร์
บริษัทโบอิ้งเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรในไตรมาส 3 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่รายได้สูงกว่าคาด แต่ก็ลดลงถึง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ทั้งนี้ โบอิ้งเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรที่ระดับ 1.45 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.09 ดอลลาร์/หุ้น
อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้ 1.998 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.967 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน โบอิ้งได้ยกเลิกการเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการประจำปีนี้ ขณะที่บริษัทกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเครื่องบินรุ่น 737 MAX หลังจากที่เครื่องบิน 2 ลำของรุ่นดังกล่าวได้ประสบอุบัติเหตุตกลงในปีที่แล้ว จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 346 คน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปลายเดือนนี้
ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 94.6% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนนี้