ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 28.42 จุด นักลงทุนผิดหวังผลประกอบการ 3M

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 25, 2019 06:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) หลังจาก 3M ซึ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยรายได้ที่ต่ำกว่าคาด อันเนื่องมาจากผลกระทบของสงครามการค้าและการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ขณะที่ทวิตเตอร์เปิดเผยรายได้ที่ต่ำกว่าคาดเช่นกัน ซึ่งได้ฉุดราคาหุ้นทวิตเตอร์ปิดตลาดร่วงลงกว่า 20% อย่างไรก็ดี ผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์ ได้ช่วยหนุนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,805.53 จุด ลดลง 28.42 จุด หรือ -0.11% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,010.29 จุด เพิ่มขึ้น 5.77 จุด หรือ +0.19% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,185.80 จุด เพิ่มขึ้น 66.00 จุด หรือ +0.81%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบ หลังจากบริษัท 3M เปิดเผยรายได้ในไตรมาส 3 ที่ระดับ 7.99 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 8.16 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ 3M ยังได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ตลอดปีงบการเงิน 2562 ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้น 3M ปิดตลาดร่วงลง 4.07% เมื่อคืนนี้

หุ้นทวิตเตอร์ ทรุดตัวลง 20.81% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 3 ที่ระดับ 823.7 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 874.0 ล้านดอลลาร์ โดยผลประกอบการของทวิตเตอร์ได้รับผลกระทบจากรายได้โฆษณาที่ลดลง

หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ดิ่งลง 6.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาส 3 ทรุดตัวลงเกือบ 60% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างบริษัท และยอดขายรถรุ่นใหม่ที่ชะลอตัวลง

หุ้นคอมแคสต์ ซึ่งสื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 1.9% เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการตลอดปีงบการเงิน 2562 แม้บริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 3 ก็ตาม

หุ้นอีเบย์ ร่วงลง 9.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้สุทธิในไตรมาส 4 ที่ระดับ 2.77-2.82 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.85 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากอีเบย์เผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดจากบรรดาขู่แข่งอย่างอเมซอน และวอลมาร์ท

หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปรับตัวลง 1.8% หลังจากซีวีเอส เฮลธ์ คอร์ป ได้ประกาศระงับการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์แป้งจอห์นสันขนาดบรรจุ 22 ออนซ์ ภายหลังจากสำนักงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐตรวจพบแร่ใยหินจากตัวอย่างแป้งของจอห์นสันที่สั่งซื้อทางออนไลน์

อย่างไรก็ดี ผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ และเพย์พาล ได้ช่วยหนุนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ดีดตัวขึ้น 2% หลังจากไมโครซอฟท์เปิดเผยกำไรในไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งเป็นไตรมาสแรกในปีงบดุลบัญชีของบริษัท ที่ระดับ 1.38 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.25 ดอลลาร์/หุ้น

หุ้นเพย์พาล พุ่งขึ้น 8.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งถึง 19% ในไตรมาส 3

หุ้นเทสลา ทะยานขึ้น 17.6% หลังจากบริษัทเปิดกำไรไตรมาส 3 ที่ระดับ 80 เซนต์ต่อหุ้น สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจะขาดทุน 46 เซนต์ต่อหุ้น

ทั้งนี้ บริษัทมากกว่า 31% ในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 โดยจำนวน 80% ได้รายงานตัวเลขกำไรดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยไปแล้วเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ดิ่งลง 1.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังรายงานด้วยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.ของสหรัฐลดลง 0.7% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 701,000 ยูนิต สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 212,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 215,000 ราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ