ดาวโจนส์พุ่งเกือบ 200 จุด ทะลุ 27,000 จุด ขานรับคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 25, 2019 22:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 200 จุด ทะลุแนว 27,000 จุด ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดของอินเทล

ณ เวลา 22.29 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 27,001.36 จุด บวก 195.83 จุด หรือ 0.73%

บริษัทมากกว่า 38% ในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 โดยจำนวน 78% ได้รายงานตัวเลขกำไรดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

อินเทล คอร์ป ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรในไตรมาส 3 ที่ระดับ 1.35 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.23 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่มีรายได้ 1.919 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 1.805 หมื่นล้านดอลลาร์

สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ออกแถลงการณ์ระบุว่า สหรัฐและจีนมีความคืบหน้าในการเจรจาการค้า และใกล้ที่จะเสร็จสิ้นการทำข้อตกลงบางส่วนในขั้นแรก

"เจ้าหน้าที่มีความคืบหน้าในหลายประเด็น และทั้งสองฝ่ายใกล้เสร็จสิ้นเนื้อหาบางส่วนในข้อตกลงดังกล่าว และการหารือจะยังคงดำเนินไปในระดับรัฐมนตรีช่วย ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีจะเจรจากันทางโทรศัพท์ในอนาคตอันใกล้" แถลงการณ์ระบุ

ทางด้านนายหลี่ ยู่เฉิง รมช.ต่างประเทศของจีน กล่าวก่อนหน้านี้ว่า จีนและสหรัฐประสบความคืบหน้าในการเจรจาการค้า และทั้งสองฝ่ายจะสามารถแก้ไขปัญหาใดๆได้ ตราบใดที่มีความเคารพซึ่งกันและกัน

"ไม่มีประเทศใดสามารถประสบความมั่งคั่งโดยปราศจากความร่วมมือกับประเทศอื่น" นายหลี่กล่าว

นอกจากนี้ นายหลี่ยังกล่าวว่า โลกต้องการให้จีนและสหรัฐยุติการทำสงครามการค้า ซึ่งทั้งสองฝ่ายต้องมีใจเปิดกว้าง แทนที่จะทำสงครามเย็นครั้งใหม่

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 93.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนนี้

ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายของผู้บริโภคสหรัฐลดลงสู่ระดับ 95.5 ในเดือนต.ค. จากตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 96.0 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 96.0 แต่ปรับตัวขึ้นจากระดับ 93.2 ในเดือนก.ย.

ผลสำรวจพบว่า ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นลดลงต่อสภาวะเศรษฐกิจทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 500 รายต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ สถานะการเงินส่วนบุคคล, ภาวะเงินเฟ้อ, การว่างงาน, อัตราดอกเบี้ย และนโยบายรัฐบาล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ