ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (25 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนปรับตัวรับการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่เป็นไปอย่างไร้ทิศทาง รวมถึงการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายของผู้บริโภคสหรัฐที่ลดลงในเดือนต.ค. ขณะที่นักลงทุนขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,958.06 จุด เพิ่มขึ้น 152.53 จุด หรือ +0.57% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,022.55 จุด เพิ่มขึ้น 12.26 จุด หรือ +0.41% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,243.12 จุด เพิ่มขึ้น 57.32 จุด หรือ +0.70%
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P 500 ปิดบวก โดยกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศพุ่งขึ้นนำตลาด 1.2%
หุ้นอินเทล และ หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้นนำตลาด โดยหุ้นอินเทล ทะยานขึ้น 8.10% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 สูงเกินคาด และคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 สูงเกินคาดด้วย
หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 4.39% แม้แคทเธอร์พิลลาร์เปิดเผยผลกำไรและรายได้ไตรมาส 3/2562 ที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ก็ตาม
ส่วนหุ้นอเมซอน ลบ 1.09% หลังรายงานผลประกอบการออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยมีรายได้สุทธิร่วงลง 26% เมื่อเทียบรายปี และอเมซอนยังคาดการณ์รายได้ไตรมาส 4 ในช่วง 8.0-8.65 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ และบ่งชี้ถึงฤดูการช็อปปิ้งวันหยุดที่อ่อนแอลง
FactSet เปิดเผยว่า บริษัทกว่า 38% ในดัชนี S&P 500 เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาแล้ว โดย 78% รายงานผลประกอบการสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ออกแถลงการณ์ระบุว่า สหรัฐและจีนมีความคืบหน้าในการเจรจาการค้า และใกล้ที่จะเสร็จสิ้นการทำข้อตกลงบางส่วนในขั้นแรก
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลขาดดุลงบประมาณ 9.84 แสนล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2562 โดยเพิ่มขึ้น 26% จากปี 2561 และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
ส่วนผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายของผู้บริโภคสหรัฐลดลงสู่ระดับ 95.5 ในเดือนต.ค. จากตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 96.0 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 96.0 แต่ปรับตัวขึ้นจากระดับ 93.2 ในเดือนก.ย.
บรรดานักลงทุนจะยังคงจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในครั้งนี้