ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) เนื่องจากแนวโน้มการจัดเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษในเดือนธ.ค.ทำให้นักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายหุ้น และนักลงทุนยังคงจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคารและพุธนี้ ขณะที่การร่วงลงของหุ้นบีพีถ่วงตลาดลงด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,306.26 จุด ลดลง 25.02 จุด หรือ -0.34%
ตลาดถูกกดดัน เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายหุ้น หลังจากนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประสบความสำเร็จในความพยายามผลักดันให้รัฐสภาให้การอนุมัติต่อการจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดในวันที่ 12 ธ.ค.
ทั้งนี้ สมาชิกสภาสามัญชนของอังกฤษหรือสภาล่าง ลงมติด้วยคะแนนเสียง 438 เสียงเห็นชอบต่อญัตติจัดการเลือกตั้งในวันที่ 12 ธ.ค. ขณะที่ 20 เสียงไม่เห็นชอบ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับผลกระทบจากข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน อาจไม่มีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่ประเทศชิลีในเดือนหน้า
ตลาดปรับตัวลงตามหุ้นบีพี ซึ่งร่วงลง 3.80% หลังรายงานผลกำไรไตรมาส 3 ลดลงอย่างมาก โดยได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันและการผลิตที่ลดลง
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมเฟดในวันอังคารและพุธนี้ โดยคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ และจะมองหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มนโยบายเฟดในระยะต่อไป