ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มรถยนต์ที่ปรับตัวขึ้นขานรับข่าวการเจรจาควบกิจการระหว่างเปอโยต์และเฟียต ไครสเลอร์ ออโตโมบิลส์ นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทลอรีอัล ได้ช่วยชดเชยการเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอจากธนาคารรายใหญ่ อาทิ ดอยซ์แบงก์ และ ซานแทนเดอร์
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.08% ปิดที่ 398.70 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,765.87 จุด เพิ่มขึ้น 25.73 จุด หรือ +0.45% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,330.78 จุด เพิ่มขึ้น 24.52 จุด หรือ +0.34% ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,910.23 จุด ลดลง 29.39 จุด หรือ -0.23%
หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้นขานรับข่าวเปอโยต์ยืนยันการเจรจาเรื่องการควบกิจการกับบริษัทเฟียต ไครสเลอร์
หุ้นเปอโยต์ พุ่ง 4.53% และ หุ้นเฟียต ไครสเลอร์ พุ่ง 9.53%
หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลและครัวเรือนปรับตัวขึ้นด้วย โดยได้แรงหนุนจากหุ้นลอรีอัลที่พุ่งขึ้น 7.56% หลังเปิดเผยรายได้รายไตรมาสสูงเกินคาด โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งทั่วภูมิภาคเอเชียและโดยเฉพาะในจีน
แต่หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง หลังจากธนาคารชั้นนำของยุโรปเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
หุ้นดอยซ์แบงก์ ดิ่งลง 7.93% หลังเปิดเผยยอดขาดทุนเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน อันเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างทั่วโลก
หุ้นซานแทนเดอร์ของสเปน ดิ่งลง 4.53% หลังเปิดเผยผลกำไรร่วงลง 75% อันเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวในอังกฤษ