ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกข้อตกลงการค้าสหรัฐ-จีนกดดันหุ้นกลุ่มรถยนต์,เหมืองแร่

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (31 ต.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่การร่วงลงของหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ส่งผลถ่วงตลาดลงด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.49% ปิดที่ 396.75 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,866.79 จุด ลดลง 43.44 จุด หรือ -0.34%, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,248.38 จุด ลดลง 82.40 จุด หรือ -1.12% และ ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,729.86 จุด ลดลง 36.00 จุด หรือ -0.62%

ตลาดถูกกดดันหลังสื่อต่างประเทศรายงานว่า จีนไม่มั่นใจกับการทำข้อตกลงการค้าระยะยาวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ซึ่งได้เพิ่มความไม่แน่นอนครั้งใหม่เกี่ยวกับความคืบหน้าระหว่างสองประเทศ หลังจากที่ข้อตกลงการค้าชั่วคราวใกล้จะได้ข้อสรุปแล้ว

รายงานข่าวดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกก่อนหน้านี้ที่ได้รับจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งด้านการค้าถ่วงหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ร่วงลง โดยหุ้นโฟล์คสวาเกน ร่วง 2.22%, หุ้นเปอโยต์ ดิ่งลง 12.86% และ หุ้นเรโนลต์ ร่วงลง 3.49%

หุ้นกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซร่วงลงด้วย โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วง 3.36% หลังเชลล์เตือนว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนอาจทำให้บริษัทชะลอแผนการซื้อคืนหุ้นมูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นบีพี ร่วง 2.26% และ หุ้นโททาล ลบ 1.11%

หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวลง เนื่องจากการเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง โดยหุ้นแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ปรับตัวลง 1.02% หลังระบุว่า ความต้องการเดินทางที่ชะลอลง อาจกระทบยอดขายตั๋วในช่วงที่เหลือของปีนี้