ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ทั้งแดนบวกและลบ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มข้อตกลงการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ภายหลังจากที่บลูมเบิร์ก เทเลวิชั่น รายงานว่า เจ้าหน้าที่ของจีนได้ตั้งข้อกังขาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการทำข้อตกลงการค้าระยะยาวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เนื่องจากความเป็นคนที่หุนหันพลันแล่นของผู้นำสหรัฐ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 22,833.23 จุด ลดลง 93.81 จุด, -0.41% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,590.48 จุด ลดลง 7.50 จุด, -0.47% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 27,020.20 จุด เพิ่มขึ้น 113.48 จุด, +0.42%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 51.7 ในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 51.4 ในเดือนก.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 51.0
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัว และหากดัชนี PMI เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จะบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต
ส่วนกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้รายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ร่วงลง 14.7% ในเดือนต.ค. แตะที่ระดับ 4.678 หมื่นล้านดอลลาร์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ระดับ 5.48 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำสถิติร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11
ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ได้รับปัจจัยกดดันจากการชะลอตัวลงของอุตสาหกรรมชิปทั่วโลก ประกอบกับผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายสำคัญของเกาหลีใต้
ขณะที่ตลาดการเงินทั่วโลกจับตากระทรวงแรงงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ในวันนี้ ขณะที่ผลสำรวจของนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนต.ค.จะเพิ่มขึ้นเพียง 85,000-89,000 ตำแหน่ง หลังจากที่พุ่งขึ้น 136,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ส่วนอัตราการว่างงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.6% จากระดับ 3.5% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี