ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) ขานรับการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตจีนที่แข็งแกร่งเกินคาด และความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.68% ปิดที่ 399.43 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,761.89 จุด เพิ่มขึ้น 32.04 จุด หรือ +0.56%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,961.05 จุด เพิ่มขึ้น 94.26 จุด หรือ +0.73% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,302.42 จุด เพิ่มขึ้น 54.04 จุด หรือ 0.75%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่นำตลาดพุ่งขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตจีนเพิ่มขึ้นเกินคาด โดยจีนถือเป็นประเทศผู้ใช้โลหะรายใหญ่ของโลก
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 51.7 ในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 51.4 ในเดือนก.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 51.0
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังนายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวระบุว่า การเจรจาการค้ากับจีนกำลังมีความคืบหน้า และสหรัฐหวังที่จะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในเดือนพ.ย.นี้
ด้านนายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐ กล่าวว่า ขณะนี้การเจรจาระหว่างสหรัฐและจีนเพื่อทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น และทั้งสองฝ่ายมีแนวโน้มลงนามในข้อตกลงในกลางเดือนพ.ย.นี้
หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเปอโยต์ บวก 2.91% และ หุ้นเรโนลต์ เพิ่มขึ้น 2.11%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นริโอ ทินโต พุ่ง 3.84% และ หุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่ง 3.12%