ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 182.24 จุด ทำนิวไฮ ขานรับเจรจาการค้าคืบหน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 8, 2019 06:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน ขานรับสัญญาณบวกในการเจรจาการค้า หลังจากสหรัฐและจีนได้ตกลงกันที่จะทยอยยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าของแต่ละฝ่าย โดยความคืบหน้าดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งในกลุ่มนี้มีการลงทุนจำนวนมากในประเทศจีน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,674.80 จุด เพิ่มขึ้น 182.24 จุด หรือ +0.66% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,085.18 จุด เพิ่มขึ้น 8.40 จุด หรือ +0.27% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,434.52 จุด เพิ่มขึ้น 23.89 จุด หรือ +0.28%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากกระทรวงพาณิชย์จีนแถลงเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐและจีนได้ตกลงกันที่จะทยอยยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าของแต่ละฝ่ายที่มีการกำหนดขึ้นในช่วงที่สหรัฐและจีนทำสงครามการค้าก่อนหน้านี้

ขณะที่สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า จีนกำลังพิจารณายกเลิกข้อจำกัดต่อการนำเข้าสัตว์ปีกจากสหรัฐ ซึ่งถือเป็นข่าวในด้านบวก เนื่องจากก่อนหน้านี้จีนได้สั่งห้ามนำเข้าสัตว์ปีกและไข่จากสหรัฐนับตั้งแต่เดือนม.ค.2558 หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ซึ่งทำให้การส่งออกสัตว์ปีกของสหรัฐทรุดตัวลง หลังจากที่เคยส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกมากถึง 390 ล้านดอลลาร์ไปยังจีนในปี 2557

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นขานรับสัญญาณบวกของการเจรจาการค้า โดยหุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 1.47% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.04% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ดีดขึ้น 0.3% หุ้น 3M บวก 0.3% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก บวก 0.26%

ส่วนหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิพนั้น หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.15% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 1.5% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 1.2% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) บวก 0.97% หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 0.34% หุ้นอินเทล บวก 0.78% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ บวก 0.3% และหุ้นเน็ตฟลิตซ์ ดีดตัวขึ้น 0.34%

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ทะยานขึ้น 2.1% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 1.6% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ดีดตัวขึ้น 2.7% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 1.7%

หุ้นราล์ฟ ลอเรน ทะยานขึ้น 14.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด โดยได้แรงหนุนจากความสำเร็จในการใช้นโยบายควบคุมการใช้จ่าย รวมทั้งความแข็งแกร่งของยอดขายเสื้อเชิร์ตแบรนด์โปโลในประเทศจีนและยุโรป

หุ้นซีร็อกซ์ และหุ้นเอชพี ต่างก็ปรับตัวลงราว 0.9% หลังจากมีรายงานว่า ซีร็อกซ์ได้เสนอซื้อกิจการบริษัทเอชพี โดยให้ราคาหุ้นละ 22 ดอลลาร์ ซึ่งหากข้อตกลงดังกล่าวประสบความสำเร็จจะทำให้ซีร็อกซ์เข้าถือหุ้นเอชพีจำนวน 48%

หุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ นำโดยหุ้นไป่ตู้ พุ่งขึ้น 13.52% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท ขณะที่หุ้นนิว โอเรียลทัล เอดดูเคชัน แอนด์ เทคโนโลยี ดีดตัวขึ้น 2.2%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 215,000 ราย

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ