ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงในฮ่องกง นอกจากนี้ เงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้น ถ่วงหุ้นกลุ่มส่งออกร่วงลงด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,328.54 จุด ลดลง 30.84 จุด หรือ -0.42% ตลาดปรับตัวลง โดยถูกกดดันจากความไม่แน่นอนในการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า เขาไม่เห็นด้วยต่อการยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน
หุ้นกลุ่มธนาคารที่ทำธุรกิจในเอเชียปรับตัวลงจากแรงขาย เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงในฮ่องกง หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงกระสุนจริงเข้าใส่ผู้ประท้วงรายหนึ่ง
หุ้นเอชเอสบีซี ลบ 1.39% และหุ้น สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ลบ 1.85%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงด้วย หลังจากจีนซึ่งเป็นผู้ใช้โลหะรายใหญ่เปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ร่วงลง 1.6% ในเดือนต.ค.ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 3 ปี
หุ้นเกล็นคอร์ ร่วง 3.50% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วง 2.66%
เงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นส่งผลถ่วงหุ้นกลุ่มส่งออกลงด้วย โดยหุ้น EVRAZ ร่วง 5.34% และหุ้นโรลส์-รอยซ์ ร่วง 4.79%