ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าอ่อนตัวลง เหตุวิตกการค้าจีน-สหรัฐและม็อบฮ่องกง

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้อ่อนตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ภายหลังจากที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน หากไม่มีการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างกันในขั้นแรกได้ ขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์การประท้วงในฮ่องกงด้วยเช่นกัน

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 23,303.13 จุด ลดลง 216.88 จุด, -0.92% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,587.81 จุด ลดลง 477.47 จุด, -1.76% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,601.91 จุด ลดลง 7.82 จุด, -0.49%

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ที่ Economic Club of New York เมื่อคืนนี้ว่า ถ้าไม่มีการทำข้อตกลง สหรัฐก็จะยังคงทำการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนอย่างมาก รวมถึงสินค้าของประเทศอื่นๆ ที่สร้างความเสียหายให้กับสหรัฐด้วย

ส่วนสถานการณ์การประท้วงที่ยืดเยื้อในฮ่องกงนั้น ล่าสุด ผู้ประท้วงฮ่องกงเดินหน้าขัดขวางการเดินทางของผู้โดยสารต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ในวันนี้ หลังจากที่เกิดเหตุปะทะรุนแรงระหว่างผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวานนี้

ผู้ประท้วงออกมาประกาศว่าจะขัดขวางการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วนในวันนี้ เพื่อเป็นการตอบโต้ของรัฐบาลและการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยรถไฟฟ้าสถานีมงกก ถุนเหมิน และสายตะวันออกได้ปิดให้บริการทั้งหมด ขณะที่รถโดยสารหลายสายและโรงเรียนหลายแห่งหยุดเปิดทำการ

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ราคาค้าส่งของญี่ปุ่นปรับตัวลง 0.4% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากต้นทุนจากน้ำมันดิบที่ร่วงลง แม้ว่ามาตรการขึ้นภาษีอุปโภคบริโภค จะมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาก็ตาม

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ราคาสินค้าที่มีการซื้อขายระหว่างบริษัทกับบริษัทลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยไม่นับรวมผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีอุปโภคบริโภคจาก 8% เป็น 10% ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยราคาร่วงลง 1.9%

นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเตรียมแถลงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสสหรัฐ ในวันนี้ โดยการแถลงจะเริ่มขึ้นในเวลา 11.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 23.00 น.ตามเวลาไทย

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างก็คาดหวังว่า นายพาวเวลอาจจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูว่า นายพาวเวลจะมีปฏิกริยาอย่างไรหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวโจมตีเฟดในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม Economic Club of New York เมื่อวานนี้ว่า การที่เฟดลังเลที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้น ถือเป็นปัจจัยถ่วงการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและสกัดการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท