ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของอังกฤษ และการร่วงลงของหุ้นทุลโลว์ ออยล์ ถ่วงตลาดลงด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,351.21 จุด ลดลง 14.23 จุด หรือ -0.19%
ตลาดปรับตัวลง โดยถูกกดดันจากความไม่แน่นอนในการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน หากสหรัฐไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน
ตลาดถูกถ่วงลงโดยหุ้นทุลโลว์ ออยล์ ซึ่งดิ่งลง 21% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันและกระแสเงินสดในปีนี้
หุ้นกลุ่มธนาคารที่ทำธุรกิจในฮ่องกง อาทิ เอชเอสบีซี และ สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปรับตัวลง 2.07% และ 0.59% ตามลำดับ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการประท้วงรุนแรงในฮ่องกงซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของเอเชีย
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอด้วย โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยายตัว 1.5% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2559 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.6% หลังจากดีดตัวขึ้น 1.7% ในเดือนก.ย.