ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้อ่อนตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ภายหลังจากที่จีนได้เปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนต.ค.ที่ชะลอตัวลง โดยนักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐว่า การลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกจะมีความคืบหน้าหรือไม่
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 23,263.96 จุด ลดลง 55.91 จุด, -0.24% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,326.24 จุด ลดลง 245.22 จุด, -0.92% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,594.59 จุด ลดลง 2.63 จุด, -0.16%
ทั้งนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวแถลงการณ์ว่าด้วยภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เฟดไม่มีแนวโน้มที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้ ตราบใดที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงดำเนินไปตามแนวทางปัจจุบัน
นายพาวเวลกล่าวย้ำว่า การที่เฟดใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นในปีนี้ ได้ช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกของจีนในเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 7.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 7.8%
การผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 4.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.4%
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 5.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ปรับตัวขึ้น 5.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.4%
ส่วนสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของญี่ปุ่น ขยายตัว 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำสถิติขยายตัวติดต่อกัน 4 ไตรมาส โดยได้ปัจจัยหนุนจากการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มมากขึ้นก่อนที่มาตรการปรับขึ้นภาษีการบริโภคจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค. รวมทั้งการใช้จ่ายด้านทุนที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ดี การขยายตัวของ GDP ไตรมาส 3 ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของสำนักข่าวเกียวโดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.8% และต่ำกว่าไตรมาส 2 ที่มีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งถึง 1.8%