ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าสหรัฐ-จีนใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก และแนวโน้มที่พรรคอนุรักษ์นิยมจะชนะการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษในเดือนหน้า ได้ช่วยหนุนตลาดขึ้นด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,396.29 จุด เพิ่มขึ้น 69.48 จุด หรือ +0.95%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการที่นายโรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ได้แสดงความหวังว่า สหรัฐและจีนอาจทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกได้ภายในปีนี้
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มการเงินที่เน้นทำธุรกิจในเอเชีย ปรับตัวขึ้นขานรับข่าวดังกล่าว โดยหุ้นเกล็นคอร์ บวก 0.59%, หุ้นแองโกล อเมริกัน เพิ่มขึ้น 0.17% , หุ้นเอชเอสบีซี บวก 1.06% และหุ้นพรูเดนเชียล เพิ่มขึ้น 2.14%
หุ้นเบอร์เบอรี่ พุ่งขึ้น 2.71% โดยได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าบริษัทหลุยส์ วิตตองของฝรั่งเศสตกลงซื้อกิจการบริษัททิฟฟานีของสหรัฐเป็นมูลค่า 1.62 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มธุรกิจในประเทศ อาทิ หุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านและกลุ่มธนาคารที่ทำธุรกิจในอังกฤษ ปรับตัวขึ้นขานรับผลสำรวจที่บ่งชี้ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมมีแนวโน้มชนะการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ซึ่งเพิ่มแนวโน้มที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)