ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างจีนและสหรัฐ ภายหลังจากที่นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และเป็นหัวหน้าคณะเจรจาการค้าของจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ในเช้าวันนี้
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,966.39 จุด ลดลง 26.65 จุด, -0.10% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 23,431.74 จุด เพิ่มขึ้น 138.93 จุด, +0.60% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,593.43 จุด เพิ่มขึ้น 2.08 จุด, +0.13%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในระหว่างการสนทนา ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่แต่ละฝ่ายมีความกังวล รวมถึงการบรรลุฉันทามติเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาทางการค้าอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันในเดินหน้าหารือกันเกี่ยวกับประเด็นต่างๆในการเจรจาการค้าเฟสแรก
สำหรับความเคลื่อนไหวในวันนี้เป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหม่ของหุ้นยักษ์ใหญ่ของจีน โดยราคาหุ้นอาลีบาบา ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน พุ่งขึ้นกว่า 7% ในการซื้อขายวันแรกที่ตลาดหุ้นฮ่องกงในวันนี้ หลังจากอาลีบาบาได้กำหนดราคาหุ้นเอาไว้ที่ 176 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 22.5 ดอลลาร์สหรัฐ ในการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนที่ตลาดหุ้นฮ่องกง
ทั้งนี้ อาลีบาบาได้ยืนยันการออกหุ้นจำนวน 500 ล้านหุ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถระดมทุนได้ 1.29 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนสถานการณ์ในฮ่องกงนั้น นางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ไม่ได้ออกมาแสดงท่าทีที่จะยอมอ่อนข้อให้กับผู้ประท้วง ในระหว่างการแสดงความคิดเห็นสู่สาธารณะเป็นครั้งแรกหลังจากที่พรรคการเมืองที่สนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นในการเลือกตั้งสภาเขต
นางลัมกล่าวว่า "สิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างแรกในตอนนี้คือการติดตามผลและข้อเสนอต่างๆ ซึ่งรวมถึงการเจรจาอย่างสันติ หลังจากช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมา ชาวฮ่องกงได้ตระหนักเป็นอย่างดีว่า ฮ่องกงไม่สามารถอดทนต่อสถานการณ์ความวุ่นวายได้ ทุกคนต้องการกลับไปใช้ชีวิตปกติ และเราต้องการความพยายามอย่างเป็นรูปธรรมของทุกคน"