ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากความหวังว่า การเจรจาการค้าอย่างต่อเนื่องระหว่างสหรัฐและจีน จะนำไปสู่การยุติสงครามการค้า นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ดัชนีหุ้นของสหรัฐปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.10% ปิดที่ 408.49 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,929.62 จุด เพิ่มขึ้น 4.77 จุด หรือ +0.08% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,403.14 จุด เพิ่มขึ้น 6.85 จุด หรือ +0.09% ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,236.42 จุด ลดลง 10.03 จุด หรือ -0.08%
ตลาดปรับตัวขึ้นขานรับข่าวกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า มีการหารือเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐและจีนในวันอังคาร และทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะเจรจากันต่อไปเกี่ยวกับประเด็นที่ยังไม่ได้ข้อสรุป
ด้านนางเคลลีแอนน์ คอนเวย์ ที่ปรึกษาประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า สหรัฐและจีนกำลังใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก หลังจากที่มีการเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่การค้าของทั้งสองฝ่ายได้หารือกันทางโทรศัพท์ และตกลงที่จะดำเนินการเจรจาต่อไป
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเบสท์บาย
หุ้นไบเออร์สดอร์ฟ และหุ้นอาดิดาสของเยอรมนี เพิ่มขึ้น 1.54% และ 1.31% ตามลำดับ, หุ้นเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ และหุ้นแดสซอลท์ ซิสเตมส์ของฝรั่งเศส ปรับตัวขึ้น 1.76% และ 1.60% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นเฟรสนิลโล และหุ้นฮิสค็อกซ์ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 6.78% และ 4.02% ตามลำดับ