ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐลงนามอนุมัติกฎหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลจีน นอกจากนี้ การขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้นหลายตัว ส่งผลถ่วงตลาดลงด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,416.43 จุด ลดลง 13.35 จุด หรือ -0.18%
ตลาดปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกับความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาการค้าระหว่างกัน หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมาย "Hong Kong Human Rights and Democracy Act" ซึ่งกฎหมายดังกล่าวจะคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนต้องรับผิดชอบในการทำลายเสรีภาพขั้นพื้นฐานและการปกครองตนเองในฮ่องกง รวมทั้งจะกำหนดให้มีการทบทวนการให้สิทธิพิเศษทางการค้ากับฮ่องกงภายใต้กฎหมายของสหรัฐ โดยการทบทวนดังกล่าวจะพิจารณาถึงประเด็นที่ว่า ฮ่องกงได้รับอำนาจในการปกครองตนเองอย่างเพียงพอจากจีนหรือไม่
การตัดสินใจดังกล่าวของปธน.ทรัมป์สร้างความไม่พอใจให้กับจีนในช่วงเวลาที่สหรัฐและจีนยังคงเดินหน้าเจรจาการค้า โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนประกาศเมื่อวานนี้ว่า จีนไม่ยอมรับอย่างเด็ดขาดที่สหรัฐลงนามร่างกฎหมายสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง และจีนระบุว่า จะดำเนินมาตรการตอบโต้กับสิ่งที่จีนมองว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายใน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เล่อ หยูเฉิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน ได้เรียกตัวนายเทอร์รี่ แบรนสแตด เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศจีนเข้าพบ เพื่อยื่นเรื่องประท้วงอย่างรุนแรงที่สหรัฐลงนามกฎหมายดังกล่าว
หุ้นกลุ่มการเงินที่เน้นลงทุนในเอเชีย และกลุ่มเหมืองแร่ ปรับตัวลงจากความวิตกดังกล่าว โดยหุ้นเอชเอสบีซี ลบ 0.73%, หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปรับตัวลง 1.11%, หุ้นเฟรสนิลโล ลบ 0.31% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ลดลง 0.024%
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการขึ้นเครื่องหมาย XD ซึ่งผู้ซื้อหุ้นจะไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล โดยหุ้นโวดาโฟน และหุ้นเนชันแนล กริด ซึ่งขึ้นเครื่องหมาย XD ร่วงลง 3.91% และ 1.10% ตามลำดับ