ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของเยอรมนี ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมโอเปกในวันที่ 5-6 ธ.ค.นี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลบ 0.13% ปิดที่ 402.66 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,054.80 จุด ลดลง 85.77 จุด หรือ -0.65% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,137.85 จุด ลดลง 50.65 จุด หรือ -0.70% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,801.55 จุด เพิ่มขึ้น 1.87 จุด หรือ +0.03%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยนักลงทุนพยายามประเมินความเป็นไปได้ว่าสหรัฐจะยกเลิกการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มเติมจากจีนที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้หรือไม่ หลังจากที่โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนออกมาย้ำว่า จีนต้องการให้สหรัฐยกเลิกการขึ้นภาษี โดยเป็นส่วนหนึ่งของการทำข้อตกลงการค้า
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคการผลิตเดือนต.ค. ลดลง 0.4% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนียังคงซบเซาต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อภาคการผลิตเดือนต.ค.ของเยอรมนีออกมาสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนก.ย.
บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมโอเปกที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในวันที่ 5-6 ธ.ค.นี้ด้วย โดยคาดว่าโอเปกจะประกาศปรับลดการผลิตน้ำมันลงอย่างมาก
หุ้นเรโนลต์ และหุ้นเปอโยต์ของฝรั่งเศส ลบ 1.85% และ 1.03% ตามลำดับ, หุ้นซีเมนส์ และหุ้นไบเออร์สดอร์ฟของเยอรมนี ลบ 1.53% และ 1.38% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นเกล็นคอร์ และหุ้น EVRAZ ของอังกฤษ ร่วงลง 9.00% และ 4.42% ตามลำดับ