ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) โดยหุ้นกลุ่มส่งออกถูกกดดัน เนื่องจากเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโร ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของอังกฤษจะชนะการเลือกตั้งทั่วประเทศด้วยเสียงข้างมากในวันที่ 12 ธ.ค.นี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,137.85 จุด ลดลง 50.65 จุด หรือ -0.70%
ตลาดปรับตัวลงตามหุ้นกลุ่มส่งออกซึ่งถูกกดดันจากการที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น อาทิ หุ้นเอชเอสบีซี ลบ 1.16% และหุ้นยูนิลีเวอร์ ลดลง 1.01%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นเกล็นคอร์ ร่วง 9.00%, หุ้น EVRAZ ร่วง 4.42% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ลดลง 1.44%
แต่หุ้นเบอร์เบอรีในกลุ่มสินค้าหรูหรา พุ่ง 3.12% โดยได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าบริษัทเคอริ่งของฝรั่งเศสแสดงความสนใจที่จะเทคโอเวอร์บริษัทมองแคลร์ของอิตาลี
ตลาดยังถูกกดดัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยนักลงทุนพยายามประเมินความเป็นไปได้ว่าสหรัฐจะยกเลิกการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มเติมจากจีนที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้หรือไม่ หลังจากที่โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนออกมาย้ำว่า จีนต้องการให้สหรัฐยกเลิกการขึ้นภาษี โดยเป็นส่วนหนึ่งของการทำข้อตกลงการค้า
นอกจากนี้ บรรดานักลงทุนยังมุ่งความสนใจไปที่การประชุมโอเปกที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในวันที่ 5-6 ธ.ค.นี้ด้วย โดยคาดว่าโอเปกจะประกาศปรับลดการผลิตน้ำมันลงอย่างมาก