ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนลบในวันนี้ หลังจากดีดตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วัน
ณ เวลา 21.32 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 27,967.56 จุด ลบ 47.50 จุด หรือ 0.17%
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 266,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 187,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี จากระดับ 3.6% ในเดือนต.ค.
นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งสหรัฐมีกำหนดเรียกเก็บภาษี 15% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 1.56 แสนล้านดอลลาร์
นายเหริน หงบิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีพาณิชย์จีน แถลงต่อผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า ทางการจีนหวังที่จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และเป็นข้อตกลงบนพื้นฐานของความเท่าเทียมกัน และความเคารพซึ่งกันและกัน และให้ประโยชน์ต่อทุกฝ่าย
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐและจีนใกล้บรรลุข้อตกลงทางการค้า ซึ่งสวนทางกับที่เขาส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อาจล่าช้าออกไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า
นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยในวันศุกร์ว่า สหรัฐและจีนใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้า ขณะที่การเจรจาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และไม่มีการกำหนดเส้นตาย
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 10-11 ธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 3 ครั้งในปีนี้