ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของอังกฤษส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่ตลาดดีดตัวขึ้นพ้นจุดต่ำสุดของวันโดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่าสหรัฐและจีนวางแผนที่จะเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าที่กำหนดไว้ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,213.76 จุด ลดลง 20.14 จุด หรือ -0.28%
ตลาดหุ้นอังกฤษถูกกดดัน หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษปรับตัวขึ้นเพียง 0.7% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2555
นอกจากนี้ ONS ยังเปิดเผยด้วยว่า ตัวเลขการขาดดุลการค้าของอังกฤษพุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.45 หมื่นล้านปอนด์ในเดือนต.ค. จากระดับ 1.15 หมื่นล้านปอนด์ในเดือนก.ย.
อย่างไรก็ตาม ตลาดดีดตัวขึ้นพ้นจากจุดต่ำสุดของวันโดยได้แรงหนุนจากการที่วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของสหรัฐและจีนระบุว่า กำลังวางแผนที่จะเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่ที่กำหนดไว้ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้
หุ้น Ashtead Group ซึ่งเป็นบริษัทด้านอุตสาหกรรม ร่วงลง 6.17% หลังเตือนเกี่ยวกับภาวะธุรกิจที่ท้าทายในอังกฤษ
หุ้นโรลส์-รอยซ์ ร่วง 3.3% หลังการลาออกของนายแบรดลีย์ ซิงเกอร์ ตัวแทนของ ValueAct Capital ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของโรลส์-รอยซ์
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่อ่อนไหวต่อประเด็นการค้า และต้องพึ่งพาการส่งออก ปรับตัวลง อาทิ หุ้นเกล็นคอร์ ลบ 0.96% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ลดลง 0.07%