ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เป็นไปอย่างระมัดระวัง ขณะที่นักลงทุนรอดูความคืบหน้าในการเจรจาทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยสหรัฐมีกำหนดเส้นตายที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มขึ้นอีกในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ รวมถึงผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.22% ปิดที่ 406.22 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,860.88 จุด เพิ่มขึ้น 12.85 จุด หรือ +0.22%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,146.74 จุด เพิ่มขึ้น 76.02 จุด หรือ +0.58% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,216.25 จุด เพิ่มขึ้น 2.49 จุด หรือ +0.03%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นไม่มากนัก ขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูว่าสหรัฐจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนที่กำหนดไว้ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้หรือไม่ รวมทั้งยังจับตาผลการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษซึ่งจะกำหนดทิศทางการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมุ่งความสนใจไปที่ผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดและ ECB ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยหลังจากตลาดยุโรปปิดทำการแล้วนั้น คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.50-1.75% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 3 ครั้งในปีนี้
ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้น Intidex ของสเปนซึ่งเป็นเจ้าของเสื้อผ้าแบรนด์ Zara ที่พุ่งขึ้น 5.24% หลังเปิดเผยผลกำไรขยายตัวแข็งแกร่ง
หุ้นอินฟิเนียน เทคโนโลยีส์ และหุ้นซีเมนส์ของเยอรมนี บวก 1.70% และ 1.60% ตามลำดับ, หุ้น Sodexo และหุ้น Engie S.A. ของฝรั่งเศส ปรับตัวขึ้น 2.23% และ 1.56% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นเฟรสนิลโล และหุ้น Ashtead Group ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 4.91% และ 4.23% ตามลำดับ