ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ธ.ค.) โดยทั้งดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ยังคงเดินหน้าทำนิวไฮ หลังจากสหรัฐเปิดเผยรายงานตัวเลขการสร้างบ้านและการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงขานรับข่าวสหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก และเตรียมเจรจาข้อตกลงเฟสที่สอง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,267.16 จุด เพิ่มขึ้น 31.27 จุด หรือ +0.11% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,192.52 จุด เพิ่มขึ้น 1.07 จุด หรือ +0.03% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,823.36 จุด เพิ่มขึ้น 9.13 จุด หรือ +0.10%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.7% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่พนักงานของบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ยุติการผละงานประท้วง
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.365 ล้านยูนิต จากระดับ 1.323 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนพ.ย.จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.345 ล้านยูนิต โดยได้ปัจจัยหนุนจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองในระดับต่ำ
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ซันทรัสต์ แอดไวซอรี เซอร์วิส ในเมืองแอตแลนต้า กล่าวว่า ข้อมูลที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจสหรัฐ และยังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ปรับตัวขึ้น 1.03% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 1.36% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ดีดขึ้น 1.1% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 1% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ บวก 0.35% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก บวก 0.2% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 0.6%
หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ทะยานขึ้น 3.7% ขานรับรายงานที่ว่า ธุรกิจสตรีมมิงของเน็ตฟลิตซ์มีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
หุ้นเอลี ลิลลี แอนด์ โค ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ พุ่งขึ้น 2% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการปี 2562
หุ้นเบด บาธ แอนด์ บียอนด์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ทะยานขึ้น 11% หลังจากมีรายงานว่า ผู้บริหารระดับสูง 6 คนของบริษัทเตรียมลาออกจากตำแหน่ง ก่อนที่นายมาร์ค ทริทตัน ซีอีโอของบริษัทจะประกาศแผนทางธุรกิจสำหรับปี 2563
หุ้นโบอิ้งปิดทรงตัว หลังจากดิ่งลงอย่างหนักในระหว่างวัน จากการที่โบอิ้งประกาศระงับการผลิตเครื่องบินรุ่น 737 MAX ในเดือนหน้า หลังจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) ระบุว่ายังไม่มีแนวโน้มที่จะให้ใบอนุญาตการบินแก่เครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX จนกว่าจะถึงปีหน้า
หุ้นแอปเปิล ขยับขึ้นเพียง 0.2% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์โรเซนแบลทท์คาดการณ์ว่า ยอดขายของแอปเปิลในจีนจะลดลงถึง 30% ในเดือนพ.ย.
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 3/2562, ดัชนีการผลิตเดือนธ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน