ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (17 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไรหลังจากตลาดบวกขึ้นติดต่อกัน 4 วัน ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับการที่อังกฤษจะดำเนินการอย่างแข็งกร้าวเกี่ยวกับกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปโดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด (hard Brexit) และการขาดความชัดเจนเกี่ยวกับรายละเอียดของข้อตกลงการค้าสหรัฐ-จีนนั้น ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลบ 0.68% ปิดที่ 414.92 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,287.83 จุด ลดลง 119.83 จุด หรือ -0.89% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,968.26 จุด ลดลง 23.39 จุด หรือ -0.39% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,525.28 จุด เพิ่มขึ้น 6.23 จุด หรือ +0.08%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรหลังบวกขึ้นติดต่อกัน 4 วัน และยังถูกกดดันจากข่าวที่ว่านายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษจะใช้อำนาจควบคุมในรัฐสภาเพื่อสกัดกั้นการขยายช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของกระบวนการ Brexit ไม่ให้เกินจากปี 2563
หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลและสินค้าในครัวเรือนถูกกดดันโดยหุ้นยูนิลีเวอร์ซึ่งร่วงลง 6.4% หลังเตือนว่ายอดขายปีนี้จะขยายตัวน้อยกว่าคาด เนื่องจากภาวะการค้าที่ยากลำบากในแอฟริกาตะวันตก และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในเอเชียใต้
หุ้นกลุ่มธนาคารของอังกฤษปรับตัวลงตามกัน โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ลบ 2.95%, บาร์เคลย์ส ลดลง 2.65% และ ลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป ร่วง 5.87%